IPL Laser คืออะไร?

     IPL ( Intense Pulsed Light ) คือ เป็นพลังงานแสงความเข้มสูง ลักษณะคล้ายแสงแฟลช นำมาใช้ในการกระตุ้น การสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ใต้ผิวหนัง และรักษารอย รวมถึงช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังเก่าฟื้นฟูสภาพผิว ทำให้ผิวอ่อนเยาว์ และลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย โดยไม่ทำให้ผิวหนังบาดเจ็บ 

IPL รักษาปัญหาใดได้บ้าง?

IPL ใช้รักษาได้ทั้งปัญหาผิวพรรณ ปัญหาความผิดปกติของหลอดเลือดบนผิวหนัง และการกำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์ 

– รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า
– กระชับรูขุมขน
– ผิวแตกลาย สิวและรอยสิว
– แผลนูน จุดเส้นเลือดขอด
– รอยที่เกิดจากเม็ดสีของผิวหนัง เช่น ปาน, กระ, ฝ้า
– ปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดความหมองคล้ำ 
– กำจัดเส้นขนที่ขึ้นตามบริเวณต่างๆ เช่น ใบหน้า หน้าอก หลัง ใต้วงแขน ขา หรือบิกินี่

การทำ IPL มีขั้นตอนอย่างไร?

ก่อนทำ IPL

แพทย์จะเช็ดทำความสะอาดผิวหนังและใช้เจลเย็นลงบนผิวบริเวณที่จะยิงแสง IPL ก่อนการทำ รวมทั้งให้ผู้ที่เข้ารับการทำ IPL สวมแว่นตาสำหรับป้องกันอันตรายจากแสง IPL

ระหว่างทำ IPL

การทำ IPL ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดและบริเวณที่รักษา แพทย์จะวางอุปกรณ์สำหรับยิงแสง IPL ไว้บนผิวหนังบริเวณดังกล่าว ซึ่งอุปกรณ์นี้จะปล่อยพลังงานแสงออกมา 

หลังทำ IPL

เมื่อทำ IPL เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ที่เข้ารับการรักษาสามารถกลับบ้านและทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ตามปกติ แต่ผิวหนังบริเวณที่ถูกยิงแสง IPL อาจมีรอยแดงและรู้สึกระคายเคืองประมาณ 2-3 ชั่วโมง รวมทั้งอาจยังคงมีอาการระคายเคืองเล็กน้อย

ก่อนทำ IPL ควรเตรียมตัวอย่างไร

  • เข้ารับการตรวจสภาพผิว รวมทั้งแจ้งให้แพทย์ทราบถึงปัญหาผิวหนัง
  • ก่อนเข้ารับการทำ IPL ประมาณ 2 สัปดาห์ ควรงดทำกิจกรรมหรือการใช้ยาและผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่อไปนี้
    • หลีกเลี่ยงแสงแดดหรือการอาบแดด
    • การแวกซ์ขน
    • การเข้ารับการผลัดเซลล์ผิว
    • การฉีดคอลลาเจน
    • การใช้ยาที่ทำให้เสี่ยงมีเลือดออกผิดปกติ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน เป็นต้น
    • การใช้ครีมหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ เช่น เรตินเอ กรดไกลโคลิก เป็นต้น

หลังทำ IPL ควรดูแลตัวเองอย่างไร

หลังเข้ารับการทำ IPL ควรดูแลตัวเอง ดังนี้

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนทำความสะอาดผิวบริเวณที่ระคายเคืองเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการโดนแดดเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ ควรทาครีมกันแดดและสวมเสื้อผ้าปกปิดผิวหนังให้มิดชิดเมื่อต้องออกไปข้างนอก
  • ทายาชาเฉพาะที่หากรู้สึกปวดบริเวณที่ได้รับการรักษา
  • เลี่ยงการประคบร้อนหรือการอาบน้ำอุ่นจนกว่าบริเวณดังกล่าวจะฟื้นตัวสู่สภาวะปกติ