โบท็อกซ์คืออะไร

โบท็อกซ์ ชื่อทางการแพทย์คือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin type A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) โบท็อกซ์ถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงามซึ่งมีคุณสมบัติในการออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลทำให้สามารถลดขนาดมัดกล้ามเนื้อลงได้และช่วยลดริ้วรอยได้เช่นกัน

การฉีดโบท็อกจะช่วยรักษาริ้วรอยบนใบหน้า ลดรอยเหี่ยวย่นหน้าผาก หางตา ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น และยังสามารถช่วยกระชับกรอบหน้า ให้ใบหน้าดูเรียวได้รูปอีกด้วย

ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์

  1. สามารถแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอย ความเหี่ยวย่นได้
  2. ลดกราม ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยมากยิ่งขึ้น
  3. ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น
  4. เห็นผลได้รวดเร็ว ขึ้นอยู่กับแบรนด์ที่เลือกใช้
  5. ผลลัพท์อยู่ได้นาน ขึ้นอยู่กับแบรนด์ที่เลือกใช้
  6. ไม่ต้องเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีด
  7. หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  8. ปลอดภัย ได้รับการรองรับจากงานวิจัย มีผลข้างเคียงน้อย
  9. ราคาไม่แพง ขึ้นอยู่กับแบรนด์ที่เลือกใช้

โบท็อกซ์ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง

  1. หน้าผาก: ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผิวตึงกระชับเรียบเนียน
  2. ระหว่างคิ้ว: ลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว รอยย่นขมวดคิ้ว
  3. ตีนกา: ลดริ้วรอยบริเวณ หางตา ตีนกาและใต้ตา 
  4. ปีกจมูก: ปรับรูปจมูกที่กว้างให้แคบลง เรียวสวยได้สัดส่วน
  5. โหนกแก้ม: ลดขนาดกล้ามเนื้อ ทำให้โหนกแก้มเล็กลง
  6. กราม: ลดกราม กระชับกรอบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว
  7. ลำคอ: ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณลำคอ
  8. แขน ขา: ลดขนาดกล้ามเนื้อแขนขา ให้ดูเรียวสมส่วน
  9. ใต้วงแขน มือ เท้า: ยับยั้บการทำงานของต่อมเหงื่อและกลิ่นกายบริเวณใต้วงแขน มือและเท้า ลดเหงื่อ

แบรนด์โบท็อกซ์ที่เราเลือกใช้

โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อนั้นจะมีคุณสมบัติที่ต่างกัน ระยะเวลาอยู่ได้ไม่เท่ากัน ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับ Molecule Complex ในตัวยาซึ่ง esthe clinic มี 3 แบรนด์ยอดนิยมมาแนะนำ 

  • Allergan (อเมริกา) แบรนด์พรีเมี่ยมยอดนิยม ยากระจายตัวแคบ ให้ผลการรักษาที่แม่นยำ ผลลัพท์อยู่ได้นานกว่าแบรนด์อื่น เห็นผลเร็ว เป็นธรรมชาติ และโอกาสดื้อยาน้อย
  • Xeomin (เยอรมัน) เน้นความธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่ตึงจนเกินไป มีความบริสุทธิ์สูง โอกาสการดื้อยาต่ำ เหมาะกับเคสดื้อยา ผลลัพท์อยู่ได้นาน
  • Aestox (เกาหลี) แบรนด์จากเกาหลี ได้รับความนิยมสูง ออกฤทธิ์ได้เร็ว เนื้อมีความแน่นแบบเป็นธรรมชาติ ราคาย่อมเยา ผลลัพท์อยู่ได้สั้นกว่า แต่ได้ความคุ้มค่า

 

โบท็อกซ์ทำงานอย่างไร

โบท็อก หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) จะเข้าไปจับที่ปลายประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ หรือกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นนั้นคลายตัว

หลังจากฉีดโบท็อกซ์แล้วปกติจะเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 2-3 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ อยู่ได้นาน 3-9 เดือนขึ้นอยู่กับแบรนด์ที่เลือกใช้ หลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อยๆหดตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม 

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์

  • แพทย์ทำการประเมินใบหน้าของคนไข้เพื่อดูบริเวณที่ต้องรักษาและปริมาณยาที่ใช้ 

  • ทายาชาก่อนฉีดประมาณ 30-45 นาที และสามารถประคบเย็นระหว่างฉีดได้

  • แพทย์ฉีดโบท็อกด้วยเข็มขนาดเล็ก คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บด้วยเทคนิคการฉีดของแพทย์

  • หลังฉีดสามารถกลับไปทำกิจกรรมต่างๆได้ปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น

อันตรายจากการใช้โบท็อกซ์ไม่ได้มาตรฐาน

การฉีดโบท็อกซ์นั้นจำเป็นที่จะต้องตรวจดูยาของแท้ทุกครั้ง รวมถึงเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือและแพทย์ที่มีประสบการณ์ โบท็อกซ์แท้ ผ่านอย. นั้นจะไม่ทิ้งสารตกค้างให้แก่ร่างกาย ซึ่งการใช้โบท็อกซ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย

การอักเสบติดเชื้อหลังฉีด ถ้าคนไข้เลือกฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือหมอกระเป๋าที่ใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด ไม่มีระบบการดูแลความสะอาดปลอดเชื้อ

หนังตาตก มุมปากเปี้ยว หน้าแข้ง เกิดจากฉีดโบท็อกในบริเวณใกล้ตำแหน่งที่เกิดผลข้างเคียง เช่น เปลือกตาด้านบน บริเวณดวงตา ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหนังตาอ่อนแรง หนังตาตก 

ส่วนอาการแพ้โบท็อกสามารถเกิดขึ้นได้ในบางคน เช่น มีผื่นคันขึ้นตามผิวหนังบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งไม่เป็นอันตราย

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์

  1. งดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด 
  2. งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  3. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
  4. สุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
  5. หากเป็นไปได้ควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนฉีด
  6. เลือกใช้โบท็อกแท้ที่สามารถตรวจสอบได้เท่านั้น
  7. ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีประสบการณ์
  8. ไม่ควรฉีดโบท็อกเกิน 300 ยูนิต ต่อครั้ง
  9. ระหว่างการฉีดควรประคบด้วยความเย็น เพื่อลดการไหลเวียนของเส้นเลือดในบริเวณนั้น

การปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์

  1. งดนอนราบเป็นเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการไหลของโบท็อกซ์
  2. งดการนวดกดจุดบริเวณที่ฉีด เป็นเวลา 1  เดือน
  3. หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดโดนความร้อนเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
  4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าเกิดอาการ fushing เช่น ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, อบซาวน่า, แช่น้ำอุ่น เนื่องจากความร้อนจะสลายตัวยาให้หมดสภาพเร็วขึ้น
  5. กรณีฉีดโบท็อกซ์บริเวณกราม หลังฉีดให้เคี้ยวหมากฝรั่ง 2 ข้างเท่าๆกัน โดยการสลับซ้ายขวา เป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้ตัวยากระจายเข้ากล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดได้ดียิ่งขึ้น
  6. หลังฉีดโบท็อกซ์ได้ประมาณ 4 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ โดยจะมีรอยแดงจากเข็มและรอยนูนจากการฉีด ซึ่งจะหายไปเองภายในเวลา 1-2 ชั่วโมงหลังฉีด
  7. งดการทำทรีทเม้นท์ด้วยเครื่อง RF หรือเลเซอร์ 2 สัปดาห์ แต่สามารถทาครีมได้ตามปกติ