เมื่ออายุที่มากขึ้นทำให้การผลิตคอลลาเจน และเซลล์ผิวใหม่น้อยลง ทำให้โครงสร้างผิวเกิดความหย่อนคล้อย ไม่เว้นแม้แต่ผิวบริเวณรอบดวงตาก็เช่นกัน ทำให้เกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย นอกจากนี้ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องอายุแต่พฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือ การขยี้ตา หรือถูตาก็ก่อให้เกิดปัญหาบริเวณรอบดวงตาด้วยเช่นกัน
นอกจากความหย่อนคล้อยแล้ว ปัญหาต่างๆ เช่น ถุงใต้ตา เปลือกตาตก คิ้วตก ริ้วรอยรอบดวงตา ปัญหาร่องลึก ถุงใต้ตา รอยคล้ำรอบดวงตา ก็เป็นปัญหากวนใจ และทำให้ดูมีอายุมากขึ้น ซึ่งปัญหานี้มักจะมาพร้อมกับความหย่อนคล้อย ดังนั้น การใช้อายครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหารอบดวงตา อาจไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพมากพอ แม้กระทั่งการเปลี่ยนพฤติกรรม ก็อาจไม่ทันเวลา เทคโนโลยียกกระชับจึงกลายเป็นตัวเลือกสำหรับปัญหาความหย่อนคล้อยรอบดวงตาที่ดีอีกทางเลือกนึง
Ulthera และ Thermage FLX แตกต่างกันอย่างไร ?
Ulthera เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับที่ใช้คลื่น Ultrasound ซึ่งเป็นคลื่นเสียงที่มีพลังงานความถี่สูง และมีความเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound ) โดยคลื่นเสียงนี้จะลงลึกไปยังบริเวณเนื้อเยื่อชั้น SMAS และ ส่งผ่านความร้อนเป็นจุดเล็กๆจุดเท่าๆกัน กระบวนการทั้งหมดนี้จะทำให้เกิดการยกกระชับ และการกระตุ้นการสร้าง Collagen ใหม่ ทำให้ผิวค่อยๆเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น
Thermage FLX เป็นเทคโนโลยีที่จะใช้คลื่นความถี่วิทยุ (non-invasive Radio Frequency RF) เข้าไปลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) และไปกระตุ้นการสร้าง Collagen ขึ้นมาใหม่ ทำให้มีความตึง กระชับ ไม่หย่อนคล้อย และนอกจากนี้ยังช่วยลดไขมันสะสมใต้ผิวหนัง สลายไขมันส่วนเกิน ทำให้ผิวแลดูเรียบเนียน
เทคโนโลยียกกระชับรอบดวงตาเหมาะกับใคร ?
Ulthera
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย แต่มีไขมันบริเวณใบหน้าน้อย ไขมันบริเวณแก้มไม่เยอะมาก มีริ้วรอย ร่องแก้มลึก
- กรอบหน้าไม่ชัด ไม่เห็นกราม ต้องการให้เห็นโครงหน้าที่ชัดเจน
- หนังตาตก หางตาตก ทำให้ดูแก่กว่าวัย
- ต้องการฟื้นบำรุงผิวจากภายใน โดยการกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินให้ผิวกลับมาเรียบเนียน
- อยากดึงหน้า ยกกระชับแบบไม่ต้องผ่าตัด
Thermage FLX
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย มีไขมันบริเวณใบหน้าเยอะ มีริ้วรอย ร่องแก้มลึก
- มีไขมันบริเวณใต้ลำคอเยอะ ต้องการลดไขมันบริเวณคางและลำคอ
- ผู้ที่มีหนังตาตก ยกกระชับบริเวณรอบดวงตา รีดบริเวณตาเพื่อคืนความอ่อนเยาว์
- ผู้ที่ใบหน้าดูแก่กว่าอายุ หมองคล้ำ ไม่สดใส คอลลาเจนหรืออิลาสตินใต้ผิวหนังเสื่อม
- ผู้ที่มีปัญหาผิวเหี่ยวย่นบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และมือ
- ผู้ที่มีผิวไม่เรียบเนียน เป็นผิวเปลืองส้ม และเซลลูไลท์
เทคโนโลยีไหนเหมาะกับการใช้บริเวณรอบดวงตามากกว่ากัน
ทั้งสองเทคโนโลยี เหมาะกับปัญหาการหย่อนคล้อยบริเวณรอบดวงตาแตกต่างกัน โดยอาจต้องมาดูกันที่สาเหตุว่าเกิดจากอะไร มีปัญหาแบบไหน เช่น หากมีปัญหาเกี่ยวกับไขมันบริเวณรอบดวงตาเยอะ อาจต้องเป็น Thermage FLX แต่ถ้าหากเกิดจากคอลลาเจนเสื่อมสภาพ ทำให้หย่อนคล้อย และ พฤติกรรมทำให้เกิดถุงใต้ตา อาจจะเหมาะสมกับ Ulthera มากกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินด้วย
ซึ่งทั้งสองเทคโนโลยีก็สามารถทำร่วมกันได้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยกกระชับ และ ช่วยคลอบคลุมปัญหาที่เกิดรอบดวงตาได้มากขึ้น
อายุยังน้อยปัญหาบริเวณรอบดวงตายังไม่เยอะยกกระชับรอบดวงตาได้มั้ย ?
สำหรับคนที่ต้องการยกกระชับรอบดวงตา แต่ปัญหาอาจยังไม่เยอะ หรือมีปัญหาเล็กน้อย สามารถทำได้ โดยแพทย์จะพิจารณาเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม ใช้ความถี่ที่ลดน้อยลง ให้เหมาะสมกับปัญหาที่มี ก็จะช่วยแก้ปัญหารอบดวงตาได้ และนอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดปัญหาความหย่อนคล้อย หรือริ้วรอยในอนาคตอีกด้วย
ยกกระชับรอบดวงตาใช้เวลาในการทำนานแค่ไหน
ทั้งสองเทคโนโลยีใช้เวลาในการทำไม่นานประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งรวมถึงการแปะยาชาแล้ว โดยระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับจำนวนช็อต และบริเวณที่ทำ หากทำแค่เฉพาะบริเวณ เช่น รอบดวงตาก็อาจใช้เวลาน้อย แต่ถ้าทำทั่วหน้าก็จะใช้ระยะเวลามากขึ้น
จุดเด่นของการกระชับผิวบริเวณรอบดวงตาที่ esthe clinic
เพราะบริเวณรอบดวงตาเป็นบริเวณที่บอบบางมากที่สุด การรักษา หรือ ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ควรทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่ง esthe clinic เรามีแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือเทคโนโลยียกกระชับเป็นอย่างดี รวมทั้งมีความรู้เกี่ยวกับชั้นผิว ทำให้เข้าใจโครงสร้างของผิว ชั้นผิว และวิเคราะห์ปัญหาของความหย่อนคล้อยออกมา เพื่อเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ทำให้การยกกระชับมีประสิทธิภาพดีที่สุด
นอกจากเรื่องของแพทย์แล้ว สิ่งที่ต้องดูก่อนเข้ารับบริการคือเรื่องการใช้เทคโนโลยีของแท้ ซึ่งสามารถมั่นใจได้ว่า esthe clinic ใช้เครื่องยกกระชับของแท้ปลอดภัยได้มาตรฐานอย่าบงแน่นอน