Rejuran คืออะไร

รีจูรันคือ Skin Rejuvenation Booster ที่กระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ โดยสารสกัดจาก Polyneucleotide(PN) หรือ Salmon DNA ซึ่งใกล้เคียงดีเอ็นเอมนุษย์มากที่สุด โดยงานวิจัยพบว่า PN เป็นองค์ประกอบสำคัญในการแก้ปัญหาผิวที่เสื่อมโทรม ฟื้นฟูบาดแผล โดยการเข้าไป ฟื้นฟูและซ่อมแซมจากภายในสู่ภายนอก กระตุ้นการเพิ่มจำนวนของเซลล์ไฟโบบลาสต์ซึ่งทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่แทนที่เซลล์ที่เกิดการเสื่อมสภาพ

นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดการสร้างกรดไฮยารูโนนิคและคอลลาเจน จึงส่งผลในการช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นยืดหยุ่นดียิ่งขึ้น ช่วยลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก และทำให้เกราะป้องกันผิวหน้ามีความแข็งแรง ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย และมีงานวิจัยรับรอง ซึ่งเป็นเทรนด์ยอดนิยมของสาวเกาหลีและทั่วโลกอยู่ขณะนี้

กระบวนการทำงานของ Rejuran

  • การนำโพลีนิวคลีโอไทด์บริสุทธิ์ที่เข้ากันได้ดีกับร่างกายของมนุษย์ฉีดเข้าสู่ผิวโดยตรงแทนที่เซลล์ที่เสื่อมสภาพ สามารถฟื้นฟูและสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
  • ควบคุมการหลั่งสารไซโตไคม์ที่มีผลต่อกระบวนการอักเสบโดยส่งผลในการต้านการอักเสบ
  • เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เนื่องจากการกระตุ้นให้มีการหลั่งโกร์ทแฟคเตอร์ ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบบลาสต์
  • ให้ผลในด้าน Angiogenesis Effect ทำให้ระบบการไหลเวียนในหลอดเลือดขนาดเล็กดีขึ้น มีการขับของเสียจากผิวหนังได้ดีขึ้น และยังช่วยบำรุงรักษาเซลล์ผิวหนัง
  • กระบวนการ Salvage Pathway เป็นกระบวนการในการใช้ ไพริมิดิน และพิวรีน เพื่อการสังเคราะห์ดีเอ็นเอโดยตรง สามารถช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่างรวดเร็ว

Polynucleotide (PN) คืออะไร

  • สารที่สกัดจาก DNA ปลาแซลมอนธรรมชาติซึ่งมีความคล้ายกับ DNA ของมนุษย์
  • ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเข้ากันกับผิวหนังของมนุษย์ได้ดีที่สุด
  • ปลอดภัยต่อมนุษย์ ไม่กระตุ้นให้เกิดการตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกัน
  • มีโครงสร้างสาย DNA ที่มีลักษณะยาวกว่า สามารถจับกับ A2A Receptor ในร่างกายของมนุษย์

Polynucleotide (PN) ดีอย่างไร

  • กระตุ้นการสร้างและการจัดเรียง Collagen & Fibroblast เพื่อมาฟื้นฟูซ่อมแซมผิว
  • กระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดการสร้างกรดไฮยารูโนนิคและคอลลาเจน ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นดียิ่งขึ้น
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก สร้างเกราะป้องกันผิวหน้า ให้ผิวมีความหนาและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยเพิ่มวอลลุ่ม กระชับรูขุมขน ฟื้นฟูซ่อมแซมหลุมสิวและลดเลือนริ้วรอย
  • ช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

Rejuran เหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้ที่ต้องการย้อนวัยผิว ผิวหน้ากระชับเต่งตึง
  • ผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจน มีผิวที่ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการมีผิวกระจ่างใส ดูมีออร่าแบบสาวเกาหลี
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่ม Volumn และสร้างความแข็งแรงให้ผิว
  • ผู้ที่ต้องการผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับมากยิ่งขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิว จากปัญหาผิวเสื่อมโทรม หรือเป็นแผล
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูรักษาปัญหาหลุมสิว
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น
  • ผู้ที่มีผิวมัน ต้องการปรับสมดุลความมันบนใบหน้า
  • ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก

Rejuran ควรทำกี่ครั้งจึงเห็นผล

ครั้งที่ 1 – ปรับสมดุลผิว 

หลังจากทำโปรแกรม Rejuran ประมาน 5-7 วัน ผิวจะมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น เป็นการปรับสมดุลความแห้ง/มันของผิว 

ครั้งที่ 2 – ผิวกระชับเต่งตึง

ผิวจะได้รับการฟื้นฟู รูขุมขนที่กว้างจะแคบลง บริเวณที่มีริ้วรอยร่องลึกจะตื้นขึ้น ผิวมีความกระชับและเต่งตึงมากยิ่งขึ้น

ครั้งที่ 3 – ผิวแข็งแรงกระจ่างใส

หลังจากที่ทำโปรแกรม Rejuran ครบ 3 ครั้ง ผิวที่เคยเสื่อมโทรม หรือปัญหาผิวต่างๆจะถูกฟื้นฟู คุณภาพผิวดีขึ้น ผิวมีความหนาและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นผิวยังแลดูขาวกระจ่างใสมีออร่ามากขึ้นด้วย

Rejuran ฉีด 1 ครั้งใช้กี่ CC

Rejuran Healer (รีจูรัน ฮีลเลอร์) ในหนึ่งกล่องจะบรรจุ 2 หลอด และใน 1 หลอดมีปริมานยา 2 ml. ซึ่งโดยปกติปริมานที่คนไข้ฉีดต่อครั้งคือ 1 หลอด (2 ml.) โดยแนะนำให้คนไข้ฉีด Rejuran ขั้นต่ำ 3 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งห่างกัน 2-3 สัปดาห์

Rejuran ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง

Rejuran Healer (รีจูรัน ฮีลเลอร์) นวัตกรรมที่ได้รับความนิยมในการฉีดมากที่สุดจากเกาหลี เหมาะกับการฉีดเพื่อฟื้นฟูผิวหน้าและลำคอ กระตุ้นการเกิดใหม่ของเซลล์ผิว ให้ผิวหน้าดูฉ่ำวาวเต่งตึง อิ่มฟูมากยิ่งขึ้น

Rejuran ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

  • เพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวมีความฉ่ำวาวมากขึ้น
  • กระตุ้นคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
  • เพิ่มความกระจ่างใส ให้ดูมีออร่ามากยิ่งขึ้น
  • ฟื้นฟูผิวให้หนาขึ้น สร้างความแข็งแรงให้ผิว
  • ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับมากยิ่งขึ้น
  • ทำให้สีผิวดีขึ้น ช่วยลดรอยดำรอยแผลจากสิว
  • ซ่อมแซมผิว ลดเลือนริ้วรอยเล็ก
  • รักษาและฟื้นฟูปัญหาหลุมสิว
  • ปรับสมดุลความมันบนใบหน้า
  • กระชับผิวหน้า แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย

Rejuran เจ็บไหม

การฉีด Rejuran จะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย คล้ายกับการฉีดหัตถการอื่นๆ ซึ่ง Rejuran จะเป็นการฉีดที่ใช้เข็มขนาดเล็ก ทำให้เจ็บน้อยกว่า และไม่มีรอยแผลหลังจากการฉีด

ซึ่งที่ esthe clinic มีการฉีด Rejuran อีกหนึ่งวิธีคือการใช้เครื่อง Auto Injection (Hycoox) ที่จะสามารถนำส่งยาได้ดีกว่า การฉีด 1 ครั้งเท่ากับการลงเข็ม 9 จุด ทำให้การฉีดนั้นแม่นยำ ตรงจุดและเจ็บน้อยกว่าการฉีดแบบทั่วไป

Rejuran ปลอดภัยไหม

Rejuran Healer (รีจูรัน ฮีลเลอร์) หรือ Rejuran Rejuvenation (PN) คิดค้นและผลิตจากประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศเกาหลี หรือ KFDA รวมถึงองค์การอาหารและยา (อย.) ประเทศไทยในปี 2565 

รวมถึงที่ esthe clinic สอนวิธีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์แท้ และแกะกล่องให้คนไข้ดูต่อหน้าทุกเคส เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้คนไข้ทุกคนถึงมาตรฐานและความปลอดภัย

การฉีด Rejuran ด้วยเครื่อง Hycoox

Hycoox คือเครื่อง Auto Injection นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากประเทศเกาหลี ซึ่งใช้เทคโนโลยีการฉีดแบบ Auto Sensing Injection ทำให้การฉีด 1 ครั้งเท่ากับการลงเข็ม 9 จุด ซึ่งทำให้การฉีดนั้นแม่นยำ ตรงจุดและเจ็บน้อยกว่า

และเมื่อทำงานร่วมกับ Rejuran ทำให้การฉีดมีความสม่ำเสมอ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตัวยากระจายตัวดียิ่งขึ้น รอยแดงบนหน้าจะค่อยๆดีขึ้นและหายเป็นปกติภายในเวลา 3 วัน

เครื่องสามารถปรับความลึกของเข็มได้ละเอียดถึง 0.2 มิลลิเมตร โดยทำงานร่วมกับระบบสูญญากาศทำให้ให้เกิดความแม่นยำ ควบคู่กับการฉีดหน้าหลายๆครั้งจะเป็นการกระตุ้นผิวหนังให้มีการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ซึ่งเจ็บน้อยกว่า ใช้เวลาในการฉีดน้อยกว่าการฉีดทั่วไป 

การเตรียมตัวก่อนฉีด Rejuran

  1. งดการใช้ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด 
  2. สุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
  3. หากเป็นไปได้ควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนฉีด
  4. เลือกผลิตภัณฑ์แท้ที่สามารถตรวจสอบได้เท่านั้น
  5. ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีประสบการณ์
  6. ไม่ควรใช้ปริมาณยามากเกินไป

การปฏิบัติตัวหลังฉีด Rejuran

  1. ควรเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะเป็นอาจจะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้
  2. ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว 
  3. หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดโดนความร้อน หรือกิจกรรมที่มีความร้อนสูงเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
  4. หากเกิดรอยแดง ช้ำ จากรอยเข็มบริเวณที่ฉีด สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ โดยปกติจะหายภายในเวลา 2-3 วัน
  5. ควรอยู่ในที่ๆมีอากาศเย็นๆ จะช่วยลดอาการบวมเข็มลงได้เร็วขึ้น